เกจวัดความดัน โดยภาพรวมแล้วประเภทของเกจวัดนั้นมีหลากหลายประเภท ที่นำไปใช้งานอุตสาหกรรมต่างๆ ล้วนเป็นอุปกรณ์เครื่องมือ ส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญมากกับการผลิต หรือกระบวนการต่างๆในอุตสาหกรรม หากเราต้องการยกระดับมาตรฐานโรงงานในอุตสาหกรรม ความรู้การเข้าใจพื้นฐานของเกจวัดแรงดัน ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญและจะสามารถนำพาเราไปสู่ระดับสากลโลกได้
Pressure Gauge หรือที่แปลว่า เกจวัดแรงดัน คือ อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการวัดหรือตรวจหาค่าแรงดันในรูปแบบของเหลว และก๊าซในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โรงงานเคมี โรงงานไฟฟ้า อุตสาหกรรมน้ำมัน วิศวกรรมไฟฟ้า หรือเทคโนโลยีน้ำ เป็นต้น เพื่อให้เราควบคุมแรงดันให้คงที่ และยังส่งไปถึงด้านความปลอดภัยต่างๆอีกด้วยในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ
เกจวัดแรงดัน (Pressure Gauge) ใช้สำหรับควบคุมค่าวัดแรงดันให้คงที่ตามมาตรฐานในภาคอุตสาหกรรมนั้นๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพการทำงานและประสิทธิผลที่ดีขึ้น และยังรวมไปถึงด้านความปลอดภัย อย่างเช่น
มีการใช้เกจวัดแรงดัน เพื่อประเมินการผลิตสารเคมีที่มีคุณภาพและปลอดภัย รวมถึงการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะดำเนินการผลิต
มีการใช้วัดแรงดันของน้ำมันและก๊าซ ตรวจสอบบำรุงในอุปกรณ์ต่างๆ หรือใช้วัดในการขุดเจาะน้ำมัน เพื่อความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์
มีการใช้วัดเพื่อควบคุมระบบไฟฟ้า ให้มีมาตรฐานในขณะเครื่องจักรทำงาน หรือใช้ตรวจบำรุงรักษาอุปกรณ์อีกด้วยเช่นเดียวกัน
การแบ่งประเภทของเกจวัดแรงดัน เป็นคำถามที่ตอบได้ยากเพราะ ด้วยประเภทของเกจวัดแรงดันที่มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เราจึงจำเป็นที่จะต้องแบ่งประเภทตามหลักการทำงานโดยทั่วไปที่ทั่วโลกมักนิยมใช้
เป็นเกจวัดที่นิยมใช้งานมากที่สุด และระบบเกจเป็นแบบอนาล็อก หรือก็คือ ระบบทำงานแบบไม่มีแรงดันไฟฟ้า จัดอยู่ในประเภทเครื่องมือวัดแรงดันทางกล โดยอาศัยการยืดหดเมื่อเจอแรงดันของท่อบูร์ดอง ท่อบูร์ดองเป็นท่อที่มีรูปร่างเป็นรัศมี และมีหน้าตัดเป็นรูปวงรี มีการแสดงค่าแรงดันบนหน้าปัด
โดยเกจวัดแรงดันแบบท่อก็ยังสามารถแบ่งย่อยได้หลากหลายชนิดและหน้าที่การใช้งานตามสถานการณ์ของเกจอีก อย่างเช่น
ใช้สำหรับวัดก๊าซและของเหลวที่ไม่หนืดหรือตกผลึกมาก ในอุตสาหกรรมต่างๆ ตำแหน่งที่มีภาวะแรงดันไดนามิกสูงและมีการสั่นสะเทือนสูง
คุณสมบัติข้อดี : ผลิตจากโลหะผสมทองแดง มีความแม่นยำในการอ่านค่าได้ดีมากด้วยกลไกล “Swiss Movement” แม้จะมีภาวะความดันไดนามิกสูงก็ตาม อีกทั้งยังมีความแข็งแรงและทนทาน เกจวัดแรงดันชนิดนี้จะทำให้ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวภายในตัวเรือนมีความชื้น จึงสามารถป้องกันความเสียหายและการสึกหรอที่เพิ่มขึ้นได้ในขณะใช้งาน และบำรุงรักษาง่าย
มาตราส่วนตั้งแต่ 0 … 400 บาร์ หรือ 0 … 6,000 psi
ใช้สำหรับการวัดก๊าซและของเหลว ในรูปแบบของสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ไม่หนืดหรือตกผลึกสูง หรือแม้แต่ในสภาพแวดล้อมที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ เป็นต้น
คุณสมบัติข้อดี : มีความเสถียรภาพรอบการโหลดและทนต่อแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ผลิตจากสแตนเลส รหัส QR บนหน้าปัดเชื่อมโยงไปยังข้อมูลเฉพาะเครื่องมือ และระบบความปลอดภัยจะมีการติดตั้งอุปกรณ์เป่าลมพร้อมปลั๊กเป่าลมที่ด้านหลังตัวเครื่อง เพื่อระบายแรงดันออก
มาตราส่วนตั้งแต่ 0 … 0.6 ถึง 0 … 1,600 บาร์ หรือ 0 … 10 ถึง 0 … 20,000 psi
เป็นเกจวัดแรงดันแบบอนาล็อก ทำงานด้วยการเคลื่อนไหวของไดอะแฟรม และแสดงค่าแรงดันบนหน้าปัด เพราะแรงดันจะมีการเปลี่ยนแปลง และยังสามารถแยกของเหลวที่ต้องการวัดความดัน ออกจากตัว pressure gauge เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้กับตัว Pressure Gauge และเกจวัดแรงดันไดอะแฟรมยังสามารถใช้วัดแรงดันต่ำถึงปานกลาง เช่น การวัดความดันบรรยากาศ หรือการตรวจสอบความดันในภาชนะเก็บแก๊ส
คุณสมบัติข้อดี : เหมาะสำหรับของเหลวหรือก๊าซที่มีฤทธิ์กัดกร่อนหรือปนเปื้อน ผลิตด้วย วัสดุ food grade สแตนเลส 316L ที่มีความปลอดภัย ช่วยยืดอายุการใช้งานเกจวัดแรงดันสำหรับอุสาหกรรมที่มีการกัดกร่อนสูง
เป็นเกจวัดแรงดันแบบดิจิตอล แสดงค่าที่วัดได้บนจอแสดงผลแบบบูรณาการ ตรงไปตรงมา ระบบมีความซับซ้อนมากขึ้น สามารถใช้งานได้ทั้งแบบคงที่และแบบเคลื่อนที่ ใช้กำหนดความดันของก๊าซ และของเหลวในงานที่หลากหลาย เช่น ใช้งานในด้านทดสอบ หรือการสอบเทียบต่างๆ ในอุตสาหกรรมทั่วไป
คุณสมบัติข้อดี : สามารถบันทึกข้อมูลและตีความได้ง่าย ลดความเสี่ยงความล้มเหลวของกลไก มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ชิ้นส่วนวัดไม่สามารถเปลี่ยนรูปได้ในกรณีที่มีแรงดันเกิน และมีความทนทานมากกว่าระบบอนาล็อก
ใช้วัดความแตกต่างระหว่าง 2 จุดในระบบ หรือ 2 สถานที่ หรือใช้ในการตรวจสอบ ควบคุมการไหลของเหลว แรงดัน และระดับของถัง
คุณสมบัติข้อดี : ใช้งานในอุตสาหกรรมหลายประเภท รวมถึงระบบ HVAC สามารถตรวจสอบปัญหา ปรับปรุงความปลอดภัย และควบคุมการไหลของเหลวและก๊าซจากความแตกต่างของแรงดัน
Digital marketing intern of IKKI Thailand
รากฐาน คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการนำไปต่อยอดในเรื่องต่างๆ เพราะมันทำให้เราเข้าใจกระบวนการทำงานได้หลากหลายอย่างวงกว้าง เข้าใจความเป็นธรรมชาติ จนเกิดการคิดวิเคราะห์ตกผลึกเป็นไอเดียสำคัญที่สามารถช่วยเหลือผู้คนในโลกใบนี้ได้มากมายอย่างแท้จริง