IPX, IP65 หรือ IP67 ที่เขียนกำกับ หมายความว่าอะไร และ ทำไมเครื่องมือต่างๆ ถึงต้องกันน้ำ

หลายๆคนที่รู้จัก และเห็นกันผ่านตา บนอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ที่เขียนกำกับไว้ถึง การกันน้ำและตัวเลขปริศนา นั้นก็คือ IP67 หรือ อีกเลขที่เราเห็นกันบ่อยๆ IP65 ซึ่งตัวเลขพวกนี้มักจะบอกผู้ใช้งาน ถึงระดับการกันน้ำกันฝุ่นของอุปกรณ์ ซึ่งแน่นอน ตัวเลขพวกนี้ไม่ได้บอกแค่เพียงอัตราการกันน้ำกันฝุ่น แต่ก่อนอื่น….

มาตรฐาน IP คืออะไร IP67 คืออะไร การกันน้ำ บนเครื่องมือ อุตสาหกรรม

ทำไมเครื่องมือต่างๆ ถึงต้องกันน้ำ (กันฝุ่นด้วยนะ)

คำถามเบสิค ที่หลายๆคนอาจตอบว่า ก็น้ำจะได้ไม่เข้าให้เครื่องพัง ซึ่งก็ถูกนะครับ…. แต่เหตุผลจริงๆของมันละคืออะไร? ซึ่งแน่นอนการกันน้ำ นั้นรวมถึงการกันฝุ่นด้วย ตามระดับเรตติ้งที่กำกับไว้ เพราะตัวเลขพวกนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับการใช้งานเป็นหลัก เพราะในการทำให้อุปกรณ์กันน้ำหรือกันฝุ่นได้ นั้นหมายถึงการประกอบที่แน่นหนาขึ้น และอาจมี Seal ยาง ติดตั้งตามขอบก่อนประกอบด้วย นั้นทำให้การใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้ในหลายๆสภาพแวดล้อม ตามกันออกแบบให้เหมาะกับการใช้งาน

ค่า Waterproof Dustproof IP ย่อมาจาก International Protection Standard คือการป้องกันตามมาตรฐานสากล

ด้วยค่า IP ที่เราเห็นจะถูกแบ่งออกเป็น ตัวเลขสองชุด ซ้ายและขวา และซ้ายกับขวา มีความหมายและมาตรฐานที่แตกต่างกัน ตัวเลขฝั่งซ้ายที่หมายถึงของแข็ง (Solid) ซึ่งของแข็งในที่นี้หมายถึง ฝุ่น หรืออณุภาคชิ้นงานต่างๆ ที่มีขนาดเล็ก และฝั่งขวาคือ ของเหลวจำพวกน้ำ 

IPX หมายความว่า IP และ X สำหรับตัวเลขกำกับต่อท้าย

อธิบายตัวเลขของ เรตติ้ง IP67

อุปกรณ์ที่ต้องการกันน้ำ กันฝุ่น IP

โดยส่วนมากอุปกรณ์เหล่านี้มักจะมีการใช้งานในสภาพแวดล้อม ที่อาจมีความชื้น มีน้ำ กลางแจ้ง หรือ พื้นที่ที่มีฝุ่นจำนวนมาก การผลิตหรือการประกอบ อุปกรณ์เหล่านี้ จึงมีความจำเป็นมากที่ต้องมีการกันน้ำ กันฝุ่น และการใช้เรตติ้ง IP เป็นมาตรฐานสากล จึงเป็นตัวบอกเราว่าอุปกรณ์ชนิดนี้กันน้ำได้ถึงระดับไหน

ตัวอย่างของอุปกรณ์ที่มีการใช้ค่า International Protections Standard (IP Rating)

Calipers 551 Series อุปกรณ์วัดระยะ กันน้ำระดับ เรตติ้ง IP67

เวอร์เนียคาลิปเปอร์ ที่เรารู้จักกันดี ในบางอุตสาหกรรมและการใช้งาน ย่อมต้องการกันน้ำและฝุ่นด้วย เพราะว่าในบางครั้งอาจมีการใช้งาน คาลิปเปอร์กลางแจ้ง ในการวัดต่างๆ หรือในพื้นที่ของโรงงานที่มีฝุ่นเป็นจำนวนมาก หรือละอองน้ำ ดังนั้น แม้จะเป็นเพียงคาลิปเปอร์ แต่การเลือกคาลิปเปอร์ที่กันน้ำได้ ย่อมดีกว่า การพยายามไม่ให้โดนน้ำ ที่ต้องคอยลบตลอดเวลา วัดอย่างปลอดภัยต่ออุปกรณ์ก็นับเป็นการ Save Cost ที่ดีอย่างนึง

กล้องงูที่เราคุ้นเคยกันดี ทำไมต้องกันน้ำด้วยละ? ก็เพราะว่าคุณสมบัติของกล้องงู ที่สามารถเข้าสู่บริเวณพื้นที่แคบได้ หรือตามท่อต่างๆ ผู้ใช้งานมักจะต้องเจอกับ ฝุ่นจำนวนมาก หรือ น้ำ เป็นธรรมดาปกติอยู่แล้ว กล้องงูจึงเป็นต้องกันน้ำ กันฝุ่นให้ได้ ซึ่งนับว่าเป็นมาตรฐานเลยก็ว่าได้ 

ปล. บางครั้งกล้องงู มีการใช้กลางแจ้งเช่นเดียวกัน และการใช้งานซ่อมรถเวลารถเสียเช่นเดียว สำหรับการใช้งานส่วนบุคคล

เครื่องวัดความหวาน Brix Refractormer ที่เราอาจทราบการใช้งานกันอยู่แล้ว ของการหยดตัวอย่างที่เป็นของเหลวบนเครื่องเพื่อตรวจสอบ ดังนั่น การที่เครื่องวัดความหวาน จะต้องกันน้ำได้เป็นเรื่องที่ธรรมดา แต่การเลือกใช้เครื่องจึงมีให้เลือกทั้ง เครื่องที่ล้างทำความสะอาดได้ อย่าง Atago Refractometer เราจึงเห็นได้ชัดว่า การที่มีเรตติ้ง  IP67 อาจไม่ใช่เรตติ้ง ของทุกส่วนแต่เป็นบางส่วนที่อาจจะสัมผัสน้ำเป็นประจำ

เครื่องชั่งวัดปกติ อาจไม่มีการกันน้ำ แต่ GX-AWP เราจะสังเกตุเห็นว่า เรตติ้งอยู่ที่ IP65 เพราะการกันน้ำของเครื่องชั่งประเภทนี้ ที่เหมาะกับการชั่งละเอียด มักจะถูกนำไปวางอยู่ในพื้นที่ปิด เช่น แลป หรือห้องควบคุมต่างๆ แต่การที่เครื่องชั่งมีการป้องกัน IP65 นั้นหมายถึง หากผู้ใช้งานเผลอทำ ชิ้นงานหกที่เป็นลักษณะของฝุ่น หรือของเหลวเล็กน้อยๆ ก็สามารถเช็ดทำความสะอาด และเครื่องชั่งละเอียดจะไม่เกิดความเสียเมื่อใช้งาน



หลังจากที่เราคงได้เห็นกันแล้วว่า แต่ละเรตติ้งคืออะไร และเราคงนับกันได้ว่าการใช้งาน เป็นกุญแจสำคัญของการให้เรตติ้งจากสินค้าเอง และการเลือกใช้งานของผู้ใช้เอง ความสอดคล้องของการเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆ จึงสำคัญกับการดู เรตติ้ง IP (Water-resistant | Weather-resistant | Dust-resistant) เช่นเดียวกันเพราะนับว่าเป็นการ Save Cost ในอุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน

Picture of Koffaree S.

Koffaree S.

Digital marketing and Content designer of IKKI Thailand
ตลาดอุตสาหกรรม นับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับต้นๆของประเทศ และการเข้าใจตลาดของอุตสาหกรรม ในทัศนคติของตัวผมเอง ผมมองคำว่า User Experience หรือ ประสบการ์ณการใช้งานของผู้ใช้งาน เป็นหัวใจหลักของการเข้าถึงตลาดอุตสาหกรรม

ในทุกๆครั้ง คำถามมากมายที่ผมมักถามตัวเองผมเองก่อนเสมอ… สินค้าจะไปเพิ่มอะไรในโรงงาน คุณภาพการผลิตเพิ่มขึ้นไหม ระบบการทำงานจะมีการเปลี่ยนแปลงไหม ระบบการทำงานดีขึ้นไหม ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน…
ซึ่งการตอบคำถามต่างๆเหล่านี้ อันดับแรก คือการมองเห็นศักยภาพของสินค้าของเรา หน้าที่เราจึงเป็นการที่เราจะต้องเข้าใจ ระบบการทำงานในโรงงานทั้งหมด ในสินค้าของเรา และการใช้งานของสินค้า เพื่อการมอบ User Experience ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า