วิธี วัดความหวานของผลไม้ ทั้งแบบทำลายและไม่ทำลายผลไม้

การวัดความหวานของผลไม้ นับว่าเป็นสิ่งที่ดูง่ายๆ เรื่องไม่จำเป็นเท่าไรในมุมมองของ ผู้บริโภคแต่หากเรามองในมุมของผู้ผลิต ไม่ว่าจะเป็นคนสวน เจ้าของสวนผลไม้ ตลาดผลไม้ ผู้นำเข้าส่งออกผลไม้ ร้านอาหาร คาเฟ่ และแน่นอนยังรวมไปถึง โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร ที่ต้องมีการใช้ผลไม้สด 

การวัดค่าความหวานของผลไม้ ไม่ว่าผลเป็นลูกๆหรือการคั้นน้ำออก การวัดความหวานของผลไม้ก็มีความจำเป็นเป็นอย่างมากในหลายๆภาคส่วน

Refractometer มาตรวัด Brix ATAGO

ความหวานของผลไม้สามารถ วัดความหวานได้ด้วย Brix Scale หรือ มาตรวัดความหวาน

หลักการทำงานของเครื่องวัดความหวาน Refractometer ทั้ง Refractometer แบบอนาล็อคที่ใช้ตาส่อง และแบบดิจิตอล Digital Refractometer

การทำงานของมาตรวัด Brix จะใช้หลักการของการหักเหของแสง (Refractive Index) เพราะในน้ำเปล่าและน้ำที่มีความหวาน จะมีการหักเหที่ไม่เท่ากัน เราเลยสามารถวัดค่าของความหวานออกมาได้ (อ่านต่อเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Refractometer คืออะไร)

และในการเลือกซื้อ Refractometer ก็จะถูกแบ่งตามค่าพิสัย Range ของการวัด เช่น 0-53% และแน่นอน นอกจากค่าความหวาน การใช้กระบวนหักเหของแสง ก็ทำให้เราสามารถวัดของเหลวได้อีกหลายชนิด

คั้นน้ำผลไม้ หนึ่งในวิธีการวัดความหวานของผลไม้

หนึ่งในวิธีการวัดความหวานของผลไม้นั้นก็คือ การตัดชิ้นส่วนหรือการคั้นน้ำผลไม้ออกมา และนำของเหลียวที่คั้นออกมาไปวัดโดยตรงได้ทันที หรือบางครั้งน้ำที่ขั้นมาแล้วเราสามารถทำการเจือจางลงได้ ด้วย water-soluble ต่างๆ เพื่อหาค่าที่พอเหมาะให้เหใาะกับความต้องการ

หากเป็นผลไม้รสเปรี้ยว เราจะวัดได้ยังไง
มีผลอะไรกับค่าความหวานไหม

ในผลไม้รสเปรี้ยว น้ำที่มีรสเปรี้ยวจริงๆแล้วมันคือน้ำที่มีค่าของความเป็นกรดสูง หรือ Acid สูงนั้นเอง ดังนั่นในการวัดผลไม้ที่มีค่าของความเปรี้ยวมาเกี่ยวด้วย เรามักจะทำการวัดใน Digital Refractometer แยกที่สามารถวัดได้ทั้งค่าของความหวานและค่าความเปรี้ยวของผลไม้ได้อีกด้วย ดังนั่นการเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมต่อผลไม้แต่ละชนิดจึงมีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน

หากเราพอจะเข้าใจหลักการของการวัดความหวานด้วยวิธีปกติแล้ว นั้นก็คือการหยดของเหลว ลงบน Prism ที่ใช้ในการหักเหของแสง แต่ในเครื่อง Refractometer ที่สามารถวัดความหวานของผลไม้ได้โดยไม่ทำลายนั้นต่างกัน ตรงที่ในแบบปกติ เราจะใช้แสงจาก สภาพแวดล้อมรอบๆ หรือแดดในการใช้กลางแจ้ง

แต่ใน Refractometer ที่ไม่ทำลายผลไม้ จะวัดด้วยการ แนบตัวเครื่องเข้ากับผลไม้ และเครื่องจะฉากแสง LED ผ่านเลนส์กระจายแสงไปที่ผลไม้ และแสงที่สะท้อนกลับมาจะมี Sensor ที่คอยรับแสง และทำการประมวลผลออกมาเป็นค่า Brix ความหวานของผลไม้ออกมาได้

หากเป็นผลไม้รสเปรี้ยว เราสามารถวัดความหวานและความเปรี้ยวได้ไหม

คำตอบก็คือเราสามารถ วัดค่าได้เช่นเดียวกัน ATAGO ได้มีเครื่องที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งเราสามารถใช้ได้ทั้งการวัดความหวานและความเปรี้ยวได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งหากเราพูดในภาษาให้ง่ายขึ้น ก็ประมาณ เปรี้ยวอมหวาน หวานอมเปรี้ยว และในการใช้งานเราก็ควรเลือกเครื่องที่ตรงกับการใช้งาน

ระดับความหวานของผลไม้ วัด ด้วยการ โดยไม่ทำลายผลไม้

โดยหลักการที่ง่ายที่สุดนั้นก็คือการ การเลือกใช้เครื่องวัดความหวานไม่ทำลาย IR-Brix meter ให้ตรงกับผลไม้และให้ถูกต้องตามการใช้งาน โดยแนบเข้ากับผลไม้ให้มากที่สุดเพื่อปิดแสงรบกวนจากภายนอก และนอกจากนั้นอีกปัจจัยนึง ก็คือความเข้าใจในแต่ละรุ่น อย่างเช่น เครื่องวัดเมล่อน ที่เครื่องจะทำการวัด ความหวานจากบริเวณเปลือกลงไป และจากแกนกลางขึ้นมา

Picture of Koffaree S.

Koffaree S.

Digital marketing and Content designer of IKKI Thailand
ตลาดอุตสาหกรรม นับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับต้นๆของประเทศ และการเข้าใจตลาดของอุตสาหกรรม ในทัศนคติของตัวผมเอง ผมมองคำว่า User Experience หรือ ประสบการ์ณการใช้งานของผู้ใช้งาน เป็นหัวใจหลักของการเข้าถึงตลาดอุตสาหกรรม

ในทุกๆครั้ง คำถามมากมายที่ผมมักถามตัวผมเองก่อนเสมอ… สินค้าจะไปเพิ่มอะไรในโรงงาน คุณภาพการผลิตเพิ่มขึ้นไหม ระบบการทำงานจะมีการเปลี่ยนแปลงไหม ระบบการทำงานดีขึ้นไหม ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน…
ซึ่งการตอบคำถามต่างๆเหล่านี้ อันดับแรก คือการมองเห็นศักยภาพของสินค้าของเรา หน้าที่เราจึงเป็นการที่เราจะต้องเข้าใจ ระบบการทำงานในโรงงานทั้งหมด ในสินค้าของเรา และการใช้งานของสินค้า เพื่อการมอบ User Experience ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า