Menu
ในระบบการตั้งค่าของอุตสาหกรรม ที่รวมทั้งเครื่องมือวัด เครื่องมืออุตสาหกรรมต่างๆ เรามักจะพบการเชื่อมต่อของเครื่องมือต่างๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการเชื่อมต่อเครื่องมือผ่าน Bluetooth หรือ Wi-Fi ซึ่งบางครั้งในระบบของบางเครื่อง ก็จะมีการเชื่อมต่อผ่านระบบ LAN ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในการเชื่อมต่อทั้งหมด ก็จะมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นระยะ ความเร็ว ความสเถียร และ การใช้งาน
(อย่างเครื่องวัดเสียง ของ RION ที่มีฟังก์ชันการเชื่อมต่อผ่าน LAN)
โดยในแต่ละประเภทจะมีข้อแตกต่างๆ หลักๆ ที่จะแบ่งออกเป็น
LAN คือตัวกลางการเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายของกลุ่มคอมพิวเตอร์ โดยผ่านสื่อกลางอย่างสาย LAN และสาย LAN ยังทำหน้าที่ในการเป็นตัวกลางชื่อมต่ออุปกรณ์และ Internet ได้โดยตรงอีกด้วย
เป็นตัวกลางในการใช้สื่อสารของอุปกรณ์ผ่าน สาย LAN ในบริเวณสายไปถึง เช่นในบริษัท องค์กร ร้านอาหาร พื้นที่จำกัดตามความหมายของชื่อนั้นก็คือ Local Area
โดยจำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่อผ่านสายเคเบิ้ล Ethernet cable หรือ สาย LAN
ระยะการใช้งานจะถูกอ้างอิงจากระยะสายที่สามารถลากไปถึงได้ และส่วนมากมักจะวางขอบเขตไว้ที่ภายในตึกอาคาร ภายในโซนๆ นึง
มีความรวดเร็วในการใช้งาน ซึ่งอาจสูงกว่าหรือเทียบเท่ากับ 1 Gbps
ปัญหาส่วนมากจะมาจาก ขนาดสายที่อาจสั้นเกินไปยาวไม่พอ
หากสาย LAN ที่มีขนาดยาวเกิดการชำรุด อาจทำการซ่อมบำรุงลำบาก
ในพื้นที่ของการผลิตบางโซนอาจจะไม่สามารถใช้สาย LAN ได้ ไม่ว่าจากประจุไฟฟ้า หรือ สนามแม่เหล็กต่างๆ
สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องจักร เซนเซอร์ และเซิฟเวอร์ในโรงงาน สำหรับระบบหุ่นยนต์ หรือ การทำ Monitoring ต่างๆ
วายฟาย เทคโนโลยีเครือข่ายไร้สาย หรือก็คือ Wireless LAN ซึ่งก็คือการเชื่อมต่อสาย LAN โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมีสายเคเบิ้ล โดย Wi-Fi จะทำงานด้วยการปล่อยคลื่นวิทยุ จากผู้ส่ง Sender และผู้รับ Receiver ของอุปกรณ์ต่างๆ ดังนั้น คุณสมบัติแรกเริ่มจึงจำเป็นที่จะต้องมีคุณสมบัติในการปล่อยและรับสัญญาณ Wi-Fi
หลายๆ คนคงรู้จักกันอยู่แล้วว่า Wi-Fi คืออะไร ซึ่งก็มีความหมายตามชื่อเลยก็คือ Wireless หรือ ไร้สาย เพราะ Wi-Fi มีคุณสมบัติในการเชื่อมต่อของอุปกรณ์โดยไม่ต้องมีสาย ตามระยะทางที่สัญญาณไปถึงเพราะ Wi-Fi จะทำงานโดยการปล่อยคลื่นสัญญาณในการสื่อสารของอุปกรณ์และเครือข่าย
Wi-Fi จะทำการเชื่อมต่อด้วยการปล่อยสัญญาณของ Sender ไปถึง Receiver ซึ่งนั้นหมายความว่า ทั้งสองฝั่งจำเป็นที่จะต้องมีการรองรับการใช้งานของเครือข่าย Wi-Fi โดยปกติแล้วจะเป็นไปตามมาตรฐาน IEEE 802.11
โดยระยะการใช้งานจะเป็นไปตามคุณสมบัติของตัวปล่อยสัญญาณ โดยส่วนมากตัวปล่อยสัญญาณระยะจะอยู่ที่ 50-100 เมตร ภายในอาคาร และสามารถขยายสัญญาณออกไปได้อีกผ่านอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi extender ต่างๆ หรือเพิ่มจุด Router เพิ่มเติมได้อีกด้วย
ความเร็วของ Wi-Fi จะขึ้นอยู่กับหลายๆ ส่วนไม่ว่าจะเป็นรุ่นเวอร์ชันของตัวปล่อยและตัวรับสัญญาณ เราจึงมักเห็นอยู่บ่อยครั้งนั้นก็คือ Wi-Fi 5 Wi-Fi 6 ซึ่งยิ่งเวอร์ชันที่มากขึ้นก็จะรองรับสัญญาณได้ไวมากขึ้น เช่ร Wi-Fi 6 ที่รองรับการถ่ายส่งข้อมูลที่สูงถึง 9.6 Gbps แต่นอกจากนั้น ความเร็วยังขึ้นอยู่กับปัจจัยสภาพแวดล้อมด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ระยะของตัวรับ ตัวส่งสัญญาณ Wi-Fi สิ่งกีดขวาง จำนวนคนเชื่อมต่อ ตัวแปรอืนๆ อีกมากมาย
มีความหยืดยุ่นในการใช้งานและความคล่องตัวสูงสำหรับ อุปกรณ์พกพาต่างๆ เช่นมือถือ แท็บเบล็ต หรืออุปกรณ์ต่างๆ
ติดตั้งง่ายใช้งานได้ง่าย ตั้งค่าไม่เยอะมาก
การถูกรบกวนของสัญญาณ ไม่ว่าจะมาจากเครื่องจักร โครงสร้างเหล็ก หรือโครสร้างแข็งแรงต่างๆ
จำเป็นที่จะต้องมีการป้องกันที่ดี เพื่อความปลอดถัยของข้อมูลและภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์
สามารถใช้งานกับอุปกรณ์พกพาต่างๆ สำหรับการ Monitoring การติดต่อสื่อสาร และอุปกรณ์ที่รองรับ IoT ในพื้นที่ที่สายเคเบิ้ลไม่สามารถไปถึงได้
อินเตอร์เน็ต หรือ ระบบเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก เครือข่ายที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ทั่วทุกมุมโลก เข้าหากันผ่านเครือข่ายกลางนั้นก็คืออินเตอร์เน็ต หรือหากเรามองเป็นภาพรวมก็คือ ในองค์กรที่เชื่อมต่อเครือข่ายเข้าหากัน และต่อไปที่ ISP ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต และ ISP ก็จะเชื่อมต่อแต่ละประเืศเข้าหากันผ่านตัวกลาง Server ของแต่ละประเทศสร้างเป็นเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุด
โดยแน่นอนว่า Internet คือเครือข่ายที่จะขยายขอบเขตการสื่อสาร ไม่ว่าจะจาก Local Network หรือเครือข่ายภายใน สู่ภายนอก รวมทั้งการใช้งานของระบบ Cloud และยังรวมไปถึงการควบคุมระยะไกล การ Monitoring ข้อมูลต่างๆ
หากเราพูดถึง Internet การเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าหากัน เราอาจจะไม่ได้พูดถึงการเชื่อมต่อภายในประเทศเท่านั้น เพราะเครือข่าย Internet เราจะพูดถึงความเป็น Global มากขึ้น และการเชื่อมต่อต่างๆ จะทำโดยการผ่าน Fiber Optic จานดาวเทียม และสัญญาณเครือข่าย Cellular (สัญญาณมือถือ)
ทั่วโลก (ในที่นี้ปี 2024 เราสามารถพูดได้เต็มปากว่า เราสามารถใช้ Internet ได้ทั่วทุกมุมโลกด้วยจานดาวเทียม อย่างของ Starlink ที่มีจานดาวเทียมโคจรรอบโลกจำนวนมาก)
ความเร็วของ Internet จะขึ้นอยู่ด้วยกันหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการเชื่อมต่ออย่าง Fiber Optic, DSL, จานดาวเทียม และอื่นๆ
สามารถเข้าถึงการควบคุม การ Monitoring ระยะไกลผ่าน Cloud Platform ต่างๆ
สามารถใช้งาน AI เพื่อทำการคาดการณ์และวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้ หรือ Big Data
ใช้งานเพื่อการสื่อสาร การเชื่อมต่อโครงข่าย Interconnection ไม่ว่าจะกับ Supplier ลูกค้า และระบบภายนอกต่างๆ ได้
จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาการใช้งานการให้บริการภายนอก
ระบบความปลอดภัยอาจจะต้องมีการใช้งาน Firewall ที่มีความแข็งแรงหรือการใช้งาน VPNs ต่างๆ
ใช้ในการควบระบบการจัดการของระบบอุตสาหกรรมต่างๆ การใช้งานร่วมกับระบบ Cloud ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ และ การแชร์ Data ไปสู่ partner หรือ ผู้ที่เกี่ยวข้องภายนอก
เทคโนโลยีการเชื่อมต่อระยะสั้น ระหว่างอุปกรณ์เครื่องมือที่มีการรรองรับการทำงานของ Bluetooth โดย Bluetooth จะสามารถเชื่อมต่อโดยไม่ต้องใช้สายเคเบิลมีการทำงานที่คล้ายคลึงกับ Wi-Fi แต่แตกต่างกันตรงที่ Bluetooth มีระยะสัญญาณ แต่มีการใช้งานของคลื่น 2.4 GHz แต่สั้นกว่าและสามารถรองรับการเชื่อมต่อกับ Internet ได้เหมือนกัน หรือที่เราเรียกกันว่า ต่อ Hotspot ซึ่งชื่อของระบบนี้ก็คือ BTPAN Bluetooth Personal Area Network
เพื่อการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ในระยะสั้น
ผ่านอุปกรณ์ที่มีการรองรับ การส่งและรับข้อมูล Bluetooth ตามมาตรฐาน IEEE 802.15.1
ระยะการใช้งานทั่วๆ ไปจะอยู่ที่ประมาณ 10 เมตร และในรุ่นใหม่ๆ อย่าง Bluetooth 5 ที่ระยะการใช้งานได้สูงถึง 100 เมตรในสภาพปกติ
ในการส่งและรับข้อมูล จะค่อนข้างที่จะช้ามากกว่าหากเราเปรียบเทียบกับ LAN และ Wi-Fi ดังนั่น Bluetooth จะเหมาะกับการส่งข้อมูลขนาดเล็ก
ใช้พลังงานที่ต่ำในการส่งข้อมูล
สามารถใช้งานและต่อยอดได้ง่ายในเครื่องมือขนาดเล็ก
ราคาไม่สูงหากเทียบกับฟังก์ชันอื่นๆ
มีระยะที่ค่อนข้างจำกัด
รับส่งข้อมูลได้ช้า
สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็น เซนเซอร์ สแกนเนอร์ การเชื่อมต่อส่งข้อมูลที่ไม่มากเข้าสู่ระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Digital marketing and Content designer of IKKI Thailand
ตลาดอุตสาหกรรม นับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับต้นๆของประเทศ และการเข้าใจตลาดของอุตสาหกรรม ในทัศนคติของตัวผมเอง ผมมองคำว่า User Experience หรือ ประสบการ์ณการใช้งานของผู้ใช้งาน เป็นหัวใจหลักของการเข้าถึงตลาดอุตสาหกรรม
ในทุกๆครั้ง คำถามมากมายที่ผมมักถามตัวผมเองก่อนเสมอ… สินค้าจะไปเพิ่มอะไรในโรงงาน คุณภาพการผลิตเพิ่มขึ้นไหม ระบบการทำงานจะมีการเปลี่ยนแปลงไหม ระบบการทำงานดีขึ้นไหม ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน…
ซึ่งการตอบคำถามต่างๆเหล่านี้ อันดับแรก คือการมองเห็นศักยภาพของสินค้าของเรา หน้าที่เราจึงเป็นการที่เราจะต้องเข้าใจ ระบบการทำงานในโรงงานทั้งหมด ในสินค้าของเรา และการใช้งานของสินค้า เพื่อการมอบ User Experience ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า