วิธีเลือกใช้ กล้องงู อุตสาหกรรม ให้เหมาะสม

วิธีเลือกใช้ กล้องงู Borescope อุตสาหกรรม ให้เหมาะสม และ กล้องงูมีประเภทไหนบ้าง

กล้องงูคืออะไร

กล้องงู หรือกล้องเคเบิ้ล คือกล้องชนิดนึง แต่เลนส์ของกล้องจะมาในรูปแบบของสายเคเบิ้ล และส่วนปลายเคเบิ้ลจะถูกเลนส์ขนาดเล็กติดตั้งไว้ โดยที่ประเภทอื่นๆ ก็ทำงานคล้ายคลึงกันกัน

ประเภทของกล้องงู

Video borescope คือ กล้องงูที่เราคุ้นเคยกันอย่างดี โดยปลายเคเบิ้ลมีเลนส์กล้องติดตั้งอยู่

Rigid Borescope คือ กล้องงู ที่ก้านแข็งตรงไม่สามารถงอได้ ด้วยส่วนประกอบของ Optical Relay โดยประกอบด้วย ระบบ Lighting และแต่ละระยะ ของก้าน Rigid จะประกอบด้วย Relay lense เพื่อการส่งต่อของสัญญาณภาพ สู่ตัวเครื่องและประมวลผลออกมา

Fiber borescope คือ กล้องงู ขนาดเลนส์ที่เล็กมาก ด้วยคุณสมบัติของสาย Fiber Optic โดยใช้หลักการของ การสะท้อนของสัญญาณของสายไฟเบอร์ (ความละเอียดขึ้นอยู่กับ จำนวนสายไฟเบอร์เล็กๆในสายหลัก)

การเลือกใช้ กล้องงู อุตสาหกรรม ให้เหมาะสม

การเลือกใช้กล้องงูให้ถูกประเภท นอกจากเวลาของการทำงานน้อยลงแล้ว ยังประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า และการทำงานก็ยังใช้ได้ดีกว่าด้วย

การเลือกสาย เคเบิ้ล (Cable) ของกล้องงู

ความยาวของเคเบิ้ล และ ไดมิเตอร์ของเลนส์

เริ่มจากคำถาม เราใช้ตรวจสอบอะไร ความลึกระยะที่ต้องใช้ และขนาดของไดมิเตอร์เลนส์ เพราะคำถามเหล่านี้จะบอกถึงข้อจำกัด ของเคเบิ้ลแต่ละประเภท เช่นต้องการระยะสาย 15m ก็จะมีการเลือกที่จำกัด หรือ เลือกขนาดไดมิเตอร์ที่เล็ก 0.1mm ก็จะมีแต่ Fiber borescope เท่านั้น

ประเภทของสายกล้องงู

Rigid คือ กล้องที่มีลักษณะของก้านแข็ง ตรงยาว ที่เหมาะกับการใช้งาน ในการส่องเข้าไปตรงๆ ในระยะสั้น ไม่ลึกหรือมีความซับซ้อน และเหมาะกับวัตถุประเภท ที่ภายใน มีลักษณะของการเป็นท่อ และ Rigid ยังมีขนาดที่เล็กตั้งแต่ 2mm ถึง 5mm

โดยเคเบิ้ลประเภทนี้ คือสายกล้องงู ที่เราคุ้นเคยกันกับคำว่ากล้องงู และข้อดีของมันก็คือ สายประเภทนี้มีความยืดหยุ่นที่สูง ซึ่งหมายความว่า กล้องงูประเภทนี้สามารถเข้าถึงพื้นที่ ที่มีความโค้งหรือซับซ้อนระดับนึงได้ และพร้อมสายที่มีความยาวได้มากถึงหลายๆเมตร ที่มากถึง 5 เมตร หรือใช้กับงานท่อที่ยาวถึง 50 ฟุต ตามเครื่องที่รองรับ 

Fiber หรือที่เรารู้กันอยู่แล้วถึง ไดมิเตอร์ที่เล็กมากของเคเบิ้ล และมีความหยืดหยุ่นที่สูง ทำให้เคเบิ้ลกล้องงูประเภทนี้ สามารถเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ที่เล็ก ที่ซับซ้อนได้ โดยข้อเสียเพียงอย่างเดียวนั้นก็คือ ภาพที่มีความละเอียดที่ต่ำมาก โดยความละเอียดที่สูงมากขึ้น หมายถึงในหนึ่งเคเบิ้ลจะประกอบด้วยเส้น Fiber จำนวนมาก ยิ่งมาก ภาพยิ่งมีความละเอียดมากขึ้น

ประเภทของเลนส์ กล้องงู

โดยประเภทของเลนส์กล้องงู มักจะถูกแบ่งออกเป็นหลักๆ เช่น เลนส์เดี่ยว, เลนส์คู่, เลนส์ 3 จุด, เลนส์ Autofocus (ขนาดใหญ่) โดยเลนส์ทำหน้าที่ นอกจากการตรวจสอบที่ครอบคลุม ยังมีส่วนของ AOV FOV ในระยะการมองเห็นโฟกัสของเลนส์

เลนส์ ของกล้องงู อุตสาหกรรม ปลายเคเบิ้ล ข้อต่อขยับได้
Articulating Lens
เลนส์ของกล้องงู ที่สามารถหมุนได้ 360
Autofocus Lens
กล้องงู Dual camera lens ในกล้องงู
Dual lens

ระบบ Lighting ให้ความสว่างของกล้องงู

ประเภทของไฟ ในที่นี้ ก็จะเป็นในเรื่องของความสว่าง ในการมองเห็นและฟังก์ชันเสริมต่างๆ ลูกเล่นให้เราได้ตรวจสอบด้วยกล้องงูง่ายขึ้น

เราจะเห็นกันได้แล้วว่า กล้องงูหากเราเลือกให้ถูก เลือกให้เหมาะสมจะทำให้การทำงานของเราดีขึ้น และประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้อีกเยอะ

Picture of Koffaree S.

Koffaree S.

Digital marketing and Content designer of IKKI Thailand
ตลาดอุตสาหกรรม นับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับต้นๆของประเทศ และการเข้าใจตลาดของอุตสาหกรรม ในทัศนคติของตัวผมเอง ผมมองคำว่า User Experience หรือ ประสบการ์ณการใช้งานของผู้ใช้งาน เป็นหัวใจหลักของการเข้าถึงตลาดอุตสาหกรรม

ในทุกๆครั้ง คำถามมากมายที่ผมมักถามตัวผมเองก่อนเสมอ… สินค้าจะไปเพิ่มอะไรในโรงงาน คุณภาพการผลิตเพิ่มขึ้นไหม ระบบการทำงานจะมีการเปลี่ยนแปลงไหม ระบบการทำงานดีขึ้นไหม ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน…
ซึ่งการตอบคำถามต่างๆเหล่านี้ อันดับแรก คือการมองเห็นศักยภาพของสินค้าของเรา หน้าที่เราจึงเป็นการที่เราจะต้องเข้าใจ ระบบการทำงานในโรงงานทั้งหมด ในสินค้าของเรา และการใช้งานของสินค้า เพื่อการมอบ User Experience ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า