Menu
ในการบอกถึงคุณภาพการผลิตของเรา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เครื่องมือวัด
เครื่องมือวัดสามารถชี้วัดคุณภาพการผลิตของเราได้ เพราะเราผลิตชิ้นงาน มาเราจะไม่รู้ถึงคุณภาพการผลิตของเราได้ หากไม่มีการวัด ไม่มีการตรวจสอบ…ดังนั่น การวัดควรเลือกเครื่องมือที่ตรงกับการใช้งาน และใช้อย่างถูกต้อง (ประเภทเครื่องมือวัด)
การเลือกใช้งาน เครื่องมือวัด เครื่องมือตรวจสอบ สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ นั้นก็คือ ประเภทการใช้งานและการนำไปใช้ เพราะประเภทของเครื่องมือวัด เครื่องมือตรวจสอบมีอยู่ด้วยกันอยู่หลายประเภท และการเลือกให้ถูกจุดประสงค์ นอกจากการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังหมายถึง เวลาที่ใช้น้อยลงในขณะวัด ประหยัดเงินที่ใช้อย่างสิ้นเปล่า และอีกมากมาย
เครื่องมือวัดประเภทนี้หลายๆคนอาจคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เครื่องมือประเภทนี้ ถูกนำไปใช้ในการวัดเพื่อหาระยะต่างๆของวัตถุชิ้นนึง ที่รวมทั้ง กว้างxยาวxสูง ที่มีทั้งการวัดละเอียด และ วัดพื้นฐาน ซึ่งรวมๆแล้วเป็นวัดระยะการทั้งสิ้น
การวัดระยะต่างๆ ที่เราคุ้นเคยการในรูปของ Vernier Calipers หรือ Micrometer ก็นับว่าเป็นส่วนนึงของประเภทนี้
การวัด Shaft หรือ เพลาต่างๆ ก็นับว่าเป็นการวัดชนิดนึง ด้วยการการวัดในลักษณะของการฉายแสงและการเกิดของเงา (Optical Shaft Measuring)
การทดสอบโดยไม่ทำลายวัตถุ แต่ด้วยนวัตกรรมต่างๆ ทำให้นำการทดสอบไม่ทำลาย มาใช้ในระบบการวัดได้ด้วยเช่นกัน เครื่อง CT X-ray สแกนวัตถุ ที่เราก็ยังสามารถวัดได้ด้วยเช่นกัน จากผลของการฉายรังสีลงไป
และแน่นอน CMM ที่เรารู้จักกันดี นั้นคือการวัดระยะที่มีความละเอียด และลักษณะของการวัด จากมุมแต่ละมุมที่ถูกกำหนดไว้ และประมวลผลออกมาเป็นระยะ
โดยเครื่องมือวัดประเภทนี้ ที่เรารู้จักกันดีในนามของ เครื่องวัดความแข็ง Hardness Tester ที่ใช้ในการวัดความแข็งวัสดุของวัตถุที่นำมาวัด โดยใช้ สเกลการวัดที่แตกต่างออกไป โดยจะแบ่งความแข็งออกไป, สเกลการวัด และ หัววัด Indenter
ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกันอีกหลายประเภทคือ Rockwell, Vickers, Brinell, Micro Vickers, Knoop และ Leeb Rebound (โดยจะจัดอยู่ในรูปแบบของ NDT เช่นเดียวกัน)
โดยการวัดแรงต่างๆ จะถูกรวมอยู่ในประเภทนี้เช่นการ วัดแรงบิดด้วยประแจปอนด์ Torque Wrench ด้วย หน่วยที่แสดงออกมามักจะเป็นหน่วยของการวัดแรงเช่น N.M
โดยการชั่งน้ำหนัก นับเป็นหนึ่งในประเภทของการวัดเช่นเดียว ด้วยเครื่องมือที่ใช้กับการวัดน้ำหนัก หรือการชั่งน้ำหนัก นับว่ามีอยู่ด้วยกันอยู่หลายประเภท ทั้งการชั่งความชื้น ชั่งละเอียด ชั่งนับชิ้นงาน ชั่งต่างๆนานาๆ
กล้องไมโครสโคป บางประเภทสามารถใช้ในการวัดด้วยเช่นกัน (บทความ: ประเภทของกล้องไมโครสโคป) และ จากการวัดด้วยกล้องไมโครสโคป ปกติ เรายังเพิ่ม การวัดและวัดวิเคราะห์ในเชิงลึกของไมโครสโคป 3D
สำหรับใช้ในการวัดระยะในระดับที่ซูมลงไปตามกำลังขยาย (Magnification) และการใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ทำให้การวัดง่ายขึ้น
กล้องไมโครสโคป สำหรับการตรวจสอบ มักไม่มีการวัดด้วยซอฟต์แวร์มาด้วยในตัว แต่ด้วยกำลังขยาย หรือฟังชั่น ออโต้โฟกัส ที่ทำให้ QC ทำงานได้ง่ายขึ้น
เกจวัดโดยส่วนมาก มักจะเป็น เครื่องมือตรวจสอบ ซึ่งข้อแตกต่างของ การวัดและการตรวจสอบ (เรามีบทความที่แล้วที่พูดถึงเรื่องนี้อยู่) โดยส่วนมากเกจวัดที่สำหรับการตรวจสอบ คือเกจวัดที่ถูกผลิตมาในลักษณะของระยะที่กำหนดมาแล้ว เช่น เกจวัดจำกัด ที่จะถูกผลิตมาตามสเป็คของชิ้นงาน โดย 1 เกจวัดจำกัดต่อหนึ่งขนาด
เกจวัดที่ถูกผลิตมาตามขนาด ชิ้นงาน จำกัดที่ขนาดเฉพาะ เพื่อการตรวจสอบ OK NG ได้อย่างรวดเร็ว หากเปรียบเทียบกันง่ายที่สุด นั้นก็คือ การมีชิ้นมาตรฐาน ที่จะถูกกำหนดเป็นตัวตั้ง และ ชิ้นงานที่เราผลิต ตรงกับ มาตรฐานแค่ไหน
โดยประเภทนี้จะคลายกับเกจวัดจำกัด (Limit Gauge) ต่างๆทั่วๆไป ตรงที่เกจวัดต่างๆประเภทนี้สามารถใช้ได้ทั้งการตรวจสอบ และ การวัด
หากพูดถึงซอฟต์แวร์ สำหรับ QC หรือ QA หลายๆซอฟต์แวร์ก็มีความคล้าย ความเหมือนและใช้ด้วยกันได้ อย่าง Fact-M ซอฟต์แวร์ SPC ที่แผนก QA อาจจะใช้เป็นหลักแต่แน่นอนว่า แผนก QC ก็มีการใช้ร่วมด้วยเช่นกัน ดังนั่น เราขอยกซอฟต์แวร์ ที่ QC ใช้ได้ด้วยมาทั้งหมดเลยนะครับ
เครื่องมือวัดเฉพาะทาง หมายถึงเครื่องมือที่จะใช้ได้กับชิ้นงานที่แคบลง เช่นกล้องไมโครสโคป สำหรับการวัดศูนย์ของเลนส์ วัดความหวาน (Brix Refractometer) หรือแม้แต่ การตรวจสอบชิ้นงานที่ได้รับการชุบแข็ง Induction และสุดท้ายคือ การวัดการไหลของพลาสติก
ซอฟต์แวร์ ที่จะช่วยทำบอลลูนให้เรา อัตโนมัติ เพียงคลิกเดียว
Digital marketing and Content designer of IKKI Thailand
ตลาดอุตสาหกรรม นับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับต้นๆของประเทศ และการเข้าใจตลาดของอุตสาหกรรม ในทัศนคติของตัวผมเอง ผมมองคำว่า User Experience หรือ ประสบการ์ณการใช้งานของผู้ใช้งาน เป็นหัวใจหลักของการเข้าถึงตลาดอุตสาหกรรม
ในทุกๆครั้ง คำถามมากมายที่ผมมักถามตัวผมเองก่อนเสมอ… สินค้าจะไปเพิ่มอะไรในโรงงาน คุณภาพการผลิตเพิ่มขึ้นไหม ระบบการทำงานจะมีการเปลี่ยนแปลงไหม ระบบการทำงานดีขึ้นไหม ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน…
ซึ่งการตอบคำถามต่างๆเหล่านี้ อันดับแรก คือการมองเห็นศักยภาพของสินค้าของเรา หน้าที่เราจึงเป็นการที่เราจะต้องเข้าใจ ระบบการทำงานในโรงงานทั้งหมด ในสินค้าของเรา และการใช้งานของสินค้า เพื่อการมอบ User Experience ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า
